การค้นหาและแทนคำ
การตรวจสอบหาคำที่สะกดผิด จะเริ่มจากการหาคำที่คาดว่าจะสะกดผิดเอง โดยใช้คำสั่ง Find (ค้นหา) เพื่อหาคำ วลี หรือข้อความใด ๆ ที่ยาวไม่เกิน 255 ตัวอักษร หรือหาสัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ เช่น แท็บ, การขึ้นหน้าใหม่ , เลขที่บรรทัด หรือแม้แต่สไตล์ที่กำหนดให้กับย่อหน้าหรือข้อความใดๆ ก็ได้ แล้วค่อยสั่งแทนที่คำหรือสิ่งที่หาด้วยคำหรือสิ่งที่ต้องการแทนด้วยคำสั่ง Replace (แทนที่) เช่น แทนสไตล์หนึ่งด้วยอีกสไตล์หนึ่ง
1. คลิกปุ่ม Select Brows Object (เลือกวิธีเรียกดู) ที่มุมขวาล่าง แล้วคลิก Find (ค้นหา)
- หรือกด <Ctrl>+<F>
- หรือเลือกคำสั่ง Edit - Find (แก้ไข - ค้นหา)
1. คลิกแท็บ Replace (แทนที่)
- ถ้าจะหาคำ ให้คลิกแท็บ Find (ค้นหา)
2. ป้อนคำที่ต้องการหาในช่อง Find what : (สิ่งที่ค้นหา)
3. ระบุคำใหม่ที่จะนำไปแทนที่คำที่ค้นหาในช่อง Replace with : (แทนที่ด้วย)
4. คลิกปุ่มFind Next (ค้นหาถัดไป) โปรแกรมจะเริ่มหาคำ
5. เมื่อพบ จะแสดงเอกสารหน้าที่มีคำนั้น คลิกปุ่ม Replace (แทนที่) เพื่อแทนที่คำ เฉพาะที่พบ และแสดงคำที่อยู่ถัดไปทันที
- ถ้าไม่ต้องการแทนที่คำในตำแหน่งนั้นให้คลิกปุ่ม Find Next (ค้นหาถัดไป)
- คลิกปุ่ม Replace All (แทนที่ทั้งหมด) เพื่อแทนที่ทุกคำที่พบในเอกสารนั้น
ถ้าจะระบุเงื่อนไขในการค้นหาเพิ่มเติมให้คลิกปุ่ม More (เพิ่มเติม) ซึ่งมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
- Search (ค้นหา) กำหนดขอบเขตและทิศทางในการค้นหา คือ Down (ลง) หาตั้งแต่จุดที่เคอร์เซอร์อยู่ไปจนถึงท้ายไฟล์ , Up (ขึ้น) หาตั้งแต่จุดที่เคอร์เซอร์อยู่ไปจนถึงต้นไฟล์ หรือ All (ทั้งหมด) หาทั้งไฟล์
- Match case (เทียบตรงตามตัวพิมพ์ใหญ่ –เล็ก) ถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะพิจารณาว่าตัวอักษรจะต้องเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ -เล็กเหมือนกัน
- Use wildcards (ใช้สัญลักษณ์ตัวแทน) ใช้ตัวอักษรพิเศษช่วยในการหาคำ เช่น Pro *โดย* หมายถึง อีกกี่ตัวอักษรก็ได้ ดังนั้นอาจได้คำว่า problem professional หรือ proof ก็ได้ และ ? แทนตัวอักษรใด ๆ ในหนึ่งตำแหน่ง เช่น ? at จะได้คำว่า cat bat cat หรือคำใดที่ลงท้ายว่า at โดยมีตัวอักษรนำหน้าเพียงหนึ่งตัว (ดูเพิ่มเติมในตารางถัดไป)
- Sound like (คล้าย (อังกฤษ) ให้หาคำที่ออกเสียงเหมือนกัน เช่น ถ้าระบุคำว่า live จะได้คำว่า life ด้วย ใช้ได้เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น
- Find all word forms (ค้นหารูปแบบคำทั้งหมด (อังกฤษ)) หาคำที่ระบุรวมถึงคำนั้น ถูกผันกริยาหรือผันนามด้วย เช่น ถ้าระบุคำ see ก็จะรวมถึงการหาคำ saw และ seen ซึ่งเป็นคำกิริยาในช่องที่ 2 และ 3 ตามลำดับหรือระบุคำว่า cry ก็จะได้คำว่า cries ด้วยเช่นกัน
Wildcard | คำอธิบายและตัวอย่าง |
? | ใช้แทนตัวอักษรใดๆ เพียง 1 ตำแหน่ง เช่น s?t จะหา sat หรือ set |
* | ใช้แทนตัวอักษรใดๆ หลายตำแหน่ง เช่น s*d จะหา sat หรือ started |
< | ใช้แทนตำแหน่งต้นของคำ เช่น < เช่น < (inter) จะหา interesting หรือ intercept แต่ไม่หา splintered |
> | ใช้แทนตำแหน่งท้ายของคำ เช่น (in) > จะหา within แต่ไม่หา interesting |
[] | ใช้หาอักษร 1 ตัวที่ตรงกับอักษรใดๆ ใน [] เช่น w [io]n จะหา win หรือ won |
[-] | ใช้หาอักษร 1 ตัวที่ตรงกับช่วงอักษรใน [] เช่น [r-t]ight จะหา right หรือ sight หรือ tight |
[!x-z] | ใช้หาอักษร 1 ตัวที่ไม่อยู่ในช่วง [] เช่น t[!a-m]ck จะหา tock หรือ tuck แต่ไม่หา tack หรือ tick |
{n} | ใช้หาตัวอักษรที่อยู่ข้างหน้าที่มีจำนวนเท่ากับที่ระบุไว้ใน {} เช่น fe {2}d จะหา feed แต่ไม่หา fed |
{n,} | ใช้หาตัวอักษรที่อยู่ข้างหน้าที่มีจำนวนอย่างน้อยเท่ากับที่ระบุไว้ใน ` {} เช่น fe {1,}d จะหา fed หรือ feed |
{n,m} | ใช้หาตัวอักษรที่อยู่ข้างหน้าที่มีจำนวนเท่ากับช่วงของค่าที่ระบุไว้ใน {} เช่น 10 {1-3} จะหา 10,100 หรือ 1000 |
@ | ใช้หาตัวอักษรที่อยู่ข้างหน้ากี่ตัวก็ได้แต่อย่างน้อย 1 ตัว เช่น l@t จะหา lot หรือ loot |
ค้นหาสิ่งต่างๆ ในเอกสาร
คำสั่ง Find (ค้นหา) นี้ยังให้หาสิ่งอื่นๆ เช่น ตาราง หรือรูปภาพ ได้เช่นกันดังนี้
1. คลิกปุ่ม (เลือกวิธีเรียกดู)
2. คลิกเลือกสิ่งที่ต้องการหาจากรายการที่มีให้เลือก โดยรายละเอียดแสดงไว้ในตารางท้ายหัวข้อนี้ ในภาพตัวอย่างเลือกค้นหารูปภาพ
3. เคอร์เซอร์จะเลื่อนไปที่ผลลัพธ์การค้นหารายแรก
4. ปุ่ม Next (หน้าถัดไป) เพื่อเลื่อนไปยังสิ่งที่เลือกไว้ในข้อ 2 (รูปภาพ) ที่อยู่ถัดไป คือ ไปที่รูปถัดไปนั่นเองหรือคลิกปุ่ม Previous (หน้าก่อนหน้า) เพื่อเลื่อนไปยังสิ่งที่เลือกในข้อ 2 ที่อยู่ก่อนหน้านี้
ตรวจและแก้ไขคำที่สะกดผิด
ขณะพิมพ์ข้อความ Word จะตรวจสอบตัวสะกดไปพร้อมกันด้วย (ถ้าตั้งให้ตรวจสอบ ดูเพิ่มใน Note) ถ้าพบคำที่สะกดผิดก็จะใส่เส้นหยักสีแดงใต้คำที่ผิดนั้น เพื่อให้คุณเห็นและจะได้แก้ไขคำนั้นทันที โดยมีวิธีในการแก้ไขได้ง่ายและรวดเร็วดังนี้
1. คลิกขวาตรงคำที่สะกดผิดซึ่ง มีเส้นหยักสีแดงอยู่ข้างใต้
2. คลิกคำที่สะกดถูกจากรายการคำศัพท์ที่มีให้เลือก เพื่อแทนคำที่สะกดผิดให้ทันทีนักเรียนอาจใช้วิธีสั่งตรวจทั้งเอกสารทีเดียวก็ได้ ดังนี้
1. คลิกในตำแหน่งที่จะให้เริ่มต้นตรวจ
- ถ้าจะให้ตรวจเฉพาะคำคำนั้นหรือเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง ให้คลิกเลือกคำคำนั้นหรือข้อความส่วนนั้น
2. คลิกปุ่มSpelling and Grammar (การสะกดและไวยากรณ์) หรือกด F7
3. Word จะแสดงคำสะกดผิดเป็นตัวสีแดงในช่อง Not in dictionary (ไม่อยู่ในพจนานุกรม) พร้อมคำที่ถูกต้องหรือคำที่ใกล้เคียงกับคำนั้นในช่อง Suggestion (คำแนะนำ) ให้คลิกคำที่จะนำไปแทน
- ถ้าไม่มีคำที่ใกล้เคียงเลย ให้พิมพ์แก้คำที่ผิดในช่อง Not in dictionary (ไม่อยู่ในพจนานุกรม) ให้ถูก จะแก้ในเอกสารเลยก็ได้
4. คลิกปุ่ม Change (เปลี่ยน) เพื่อแทนคำที่สะกดผิดด้วยคำที่เลือกไว้ในข้อ 3
สำหรับปุ่มอื่นๆ ได้แก่
- Igncre Once (ละเว้นทันที) ให้ข้ามคำนี้ไป (คือปล่อยเฉพาะคำตรงนี้ให้เหมือนเดิม)
- Ignce All (ละเว้นทันที) ให้ข้ามคำนี้ไปทุกครั้งที่พบ
- Add to Dictionary (เพิ่มในพจนานุกรม) เพิ่มคำที่พบว่าสะกดผิดนี้ใน
พจนานุกรมพิเศษ
ที่ชื่อ CUSTOM.DIC ครั้งต่อไปจะถือว่าคำนี้สะกดถูก
- Change All (เปลี่ยนทั้งหมด) เปลี่ยนคำที่ตรวจพบว่าสะกดผิดนี้ ด้วยคำที่เลือก
ในข้อ 3 ทุกครั้งที่พบ
- AutoCorrect (แก้ไขอัตโนมัติ) เพิ่มคำนี้และคำที่เลือกไว้ในข้อ 3 เข้าไปในชุด
คำของ Auto Correct
5. คลิกปุ่มคำสั่ง Close (ปิด) เมื่อการตรวจเสร็จสิ้นแล้ว
ตรวจและแก้ไขไวยากรณ์
นอกจากตรวจการสะกดคำ Word ยังช่วยตรวจการใช้ไวยากรณ์ (เฉพาะภาษาอังกฤษ) และถ้าพบว่าประโยคใดใช้ไวยากรณ์ไม่ถูก ก็จะแนะนำการใช้ที่ถูกให้
1. คลิกเมาส์ตรงตำแหน่งเริ่มต้นที่จะให้ตรวจไวยากรณ์
- ถ้าจะให้ตรวจเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง ให้คลิกเลือกข้อความส่วนนั้นๆ
2. คลิกปุ่ม Spelling and Grammar (การสะกดและไวยากรณ์)
3. Word จะแสดงเส้นหยักสีเขียวใต้ตำแหน่งที่ใช้ไวยากรณ์ผิด พร้อมทั้งแสดงคำอธิบายหรือการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกในช่อง Suggestions (คำแนะนำ) ให้คลิกข้อความที่ถูก
4. คลิกปุ่ม Change (เปลี่ยน)
5. คลิกปุ่ม Next Srentence (ประโยคถัดไป) เพื่อไปยังตำแหน่งที่ผิดแห่งถัดไป และทำขั้นตอนที่ 3 และ 4 ซ้ำ จนกว่าจะหมด
6. คลิกปุ่ม Close (ปิด) เมื่อการตรวจเสร็จสิ้น
หาคำเหมือนหรือตรงข้ามด้วยอรรถาภิธาน
นอกจากพจนานุกรม Word ยังมีบัญชีกลุ่มคำที่เรียกว่า Thesaurus (อรรถาภิธาน) (เฉพาะคำในภาษาอังกฤษ) ซึ่งเก็บคำที่เกี่ยวข้องหรือมีความหมายเหมือนกัน ช่วยให้รู้ความหมายของคำหรือหาคำที่ใช้ทดแทนกันได้เพื่อให้เอกสารของนักเรียนไม่ใช้คำซ้ำ ๆ กันบ่อยเกินไป
1. ดับเบิลคลิกคำที่ต้องการ
2. เลือก Tools – Language - Thesaurus (เครื่องมือ – ภาษา - อรรถาภิธาน) หรือกด <Shift> + <F7>
3. ในทาสก์เพน Research อรรถาภิธานจะให้รายการคำเหมือนสำหรับข้อความที่ค้นหาโดยจะแสดงความหมายของคำในข้อ 1 ที่กรอบด้านล่าง ถ้ามีหลายความหมายก็จะแสดงแต่ละคำออกมา และหากต้องการดูว่าคำที่อยู่ในนั้นมีคำเหมือนใดบ้าง ก็ให้คลิกเลือกที่ความหมายนั้นๆ ก่อนแล้วคำเหมือนต่าง ๆ จะแสดงต่อไปเรื่อย ๆ คลิกปุ่ม Back ถอยกลับไปยังคำที่ผ่านมา
4. คลิก หลังคำที่ต้องการ แล้วเลือก Insert เพื่อนำไปแทนคำที่ระบุไว้ในข้อ 1
ปรับตั้งออปชั่นในการตรวจตัวสะกดและไวยากรณ์
ในการตรวจคำสะกดหรือไวยากรณ์นั้น สามารถตั้งออปชั่นให้ Word ทำงานในลักษณะต่างๆ เช่น ซ่อนหรือแสดงเส้นหยักใต้คำผิด หรือประโยคที่ใช้ผิดไวยากรณ์ ได้ดังนี้
1. เลือกคำสั่ง Tools - Options (เครื่องมือ - ตัวเลือก)
2.คลิกแท็บ Spelling & Grammar (การสะกดและไวยากรณ์)
3.คลิกให้มีเครื่องหมายถูกหน้าออปชั่นที่ต้องการให้มีผล
4.คลิกปุ่ม OK (ตกลง)
ออปชั่นต่างๆ มีสองกลุ่มดังนี้
กลุ่ม (Spelling) การสะกด
- Check spelling as you type (ตรวจการสะกดขณะพิมพ์) ให้ตรวจคำสะกดผิด
ไปด้วย ในขณะที่กำลังพิมพ์ข้อความ
- Hide spelling errors in this document (ซ่อนการสะกดผิดของเอกสารนี้) ไม่
ต้องแสดงเส้นหยักสีแดงใต้คำที่สะกดผิด
- Always suggest corrections (ให้คำแนะนำการแก้ไขทุกครั้ง) เวลาเรียกคำสั่ง Tool - Spelling & Grammar…(เครื่องมือ - การสะกดและไวยากรณ์) เมื่อพบคำที่สะกดผิดให้แสดงคำถูกที่ใกล้เคียง ซึ่งอาจมีได้มากกว่า 1 คำ
- Suggest form main dictionary only (คำแนะนำจากพจนานุกรมหลักเท่านั้น) ให้แสดงคำถูกที่ใกล้เคียงจากพจนานุกรมหลักเท่านั้น
- Ignore words in UPPERCASE (ละเว้นคำที่เป็นตัวพิมพ์ใหญ่) ไม่ต้องตรวจการสะกดของคำที่เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ ซึ่งอาจเป็นชื่อเฉพาะหรือคำย่อต่างๆ เช่น DRAM , ASAP, ICT
- Ignore words with numbers (ละเว้นคำที่มีตัวเลข) ไม่ต้องตรวจการสะกดของคำที่มีแต่ตัวเลข
- Ignore Internet file Assresses (ละเว้นที่อยู่อินเทอร์เน็ตและแฟ้ม) ไม่ต้องตรวจการสะกดคำที่เป็นอินเทอร์เน็ตแอดเดรส หรือที่เป็นชื่อไฟล์ เช่น www.pvinter.com
- ปุ่มCustom Dictionari…. (กำหนดพจนานุกรมเอง) ให้กำหนดให้พจนานุกรมที่สร้างมีผลขณะเดียวกันก็ใช่เพิ่ม แก้ไข ลบคำในพจนานุกรมที่สร้างขึ้นเอง
กลุ่ม Grammar (ไวยากรณ์)
- Check grammar as you type (ตรวจไวยากรณ์ขณะพิมพ์) ตรวจไวยากรณ์ไปด้วยขณะที่กำลังพิมพ์ข้อความ
- Hide grammatical errors in this document (ซ่อนความผิดพลาดทางไวยากรณ์ของเอกสารนี้) ไม่แสดงเส้นหยักสีเขียวใต้คำที่ใช้ไวยากรณ์ผิด- Check grammar with spelling (ตรวจไวยากรณ์และการสะกด) ให้ตรวจไวยากรณ์และการสะกดคำไปพร้อมกัน
- Show readability statistics (แสดงสถิติที่ได้จากการอ่าน) ให้แสดงสถิติหรือคะแนนที่ได้หลักจากที่ตรวจคำสะกดและไวยากรณ์
กรอกข้อความอัตโนมัติด้วย Auto Text
Word มีเครื่องมือช่วยป้อนข้อความหรือคำที่ใช้บ่อยๆ ให้สะด้วยขึ้น เช่น คำขึ้น หรือลงท้ายจดหมาย โดยรวบรวมคำเหล่านั้นมาจัดทำเป็นข้อความอัตโนมัติ หรือ Auto Text เมื่อป้อนส่วนต้นของข้อความนั้นจนพอที่จะเดาได้ว่าเป็นคำใด Word ก็จะแสดงคำที่คาดเดาไว้ในกรอบเล็กๆ ให้เห็น ถ้ากด <Enter> Word ก็จะเติมส่วนที่เหลือให้เอง
สร้างค้ารายการของ Auto Text
นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง Auto Text เก็บรายการข้อมูลที่ต้องใช้งานบ่อยๆ โดยจะเป็นข้อความยาวๆ ตารางหรือรูปภาพก็ได้
1. เตรียมเนื้อหา ข้อความ หรือรูปภาพ ที่จะเก็บเป็นข้อความอัตโนมัติ และเลือกข้อความเหล่านั้น
2. เลือก Insert > Auto Text > New (แทรก >ข้อความอัตโนมัติ> สร้าง) หรือ กดปุ่ม<Alt>+<F3>
3. ตั้งชื่อให้กับ Auto Text นั้น
4. คลิกปุ่ม OK (ตกลง)
เรียกใช้คำใน Auto Tex
เมื่อสร้าง Auto Text ไว้แล้วหากต้องการนำมาใช้งานทำได้ ดังนี้
1. พิมพ์ชื่อของ Auto Text เพียงบางส่วน
2. เมื่อ Word แสดงชื่อเต็ม กดแป้น <Ener> Word จะนำข้อความเต็มๆ ของ Auto Text ชื่อนั้นมาใส่ให้
- ถ้าไม่ต้องการ Auto Text คำนั้น ก็ให้ป้อนส่วนที่เหลือของที่ต้องการเอง
คำที่เป็น Auto Text จะถูกจัดไว้ในเมนู Insert > Auto Text (แทรก > ข้อความอัตโนมัติ) ให้เรียกได้ง่ายขึ้น โดยคำที่สร้างเองถูกจัดเข้าไปในกลุ่มตามสไตส์ที่ข้อความนั้น ใช้ตอนสั่งสร้าง ดังตัวอย่าง ชื่อที่สร้างไว้จะอยู่ในกลุ่ม Nounal(ปกติ) ซึ่งเป็นสไตส์ที่ Auto Text นั้นใช้นั่นเอง
ลบค่าออกจาก Auto Text
ถ้า Auto Text ใดไม่ใช้งานแล้ว ก็สามารถจะลบออกได้ดังนี้
1. คลิก Insert > Auto Text > Auto Text (แทรก > ข้อความอัตโนมัติ > ข้อความอัตโนมัติ)
2. ที่แท็บ Auto Text (ข้อความอัตโนมัติ) คลิกชื่อที่ต้องการลบ
3. คลิกปุ่ม Delete (ลบ)
4. คลิกปุ่ม Ok (ตกลง)
คำถาม หน่วยที่ 7
1. เพื่อหาคำ วลี หรือข้อความจะมีความยาวไม่เกินเท่าไร
ก. 253
ข. 255
ค. 256
ง. 300
2. กลุ่มคำที่เรียกว่า Thrsaurus ภาษาไทยแปลว่าอะไร
ก. อรรภาถิธาน
ข. อรรถภิธาน
ค. อรรถามภินาธ
ง. อรรถาภิธาน
3. ออปชั่นมีกี่กลุ่มและอะไรบ้าง
ก. 2 กลุุ่ม กลุ่มการสะกด,กลุ่มไวยากรณ์
ข. 1 กลุ่ม กลุุ่มการสะกด
ค. 3 กลุ่ม กลุ่มการสะกด,กลุ่มปุ่ม,กลุ่มไวยากรณ์
ง. ถูกทุกข้อ
4. > ตัวนี้ใช้แทนในตำแหน่งอะไร
ก. ตำแหน่งแรกของคำ
ข. ตำแหน่งกลางของคำ
ค. ตำแหน่งท้ายของคำ
ง. ถูกทุกข้อ
5. คำไหนที่ใช้สัญลักษณ์ตัวแทน
ก. Sound like
ข. Search
ค. More
ง. Use wildcards
สร้างค้ารายการของ Auto Text
นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง Auto Text เก็บรายการข้อมูลที่ต้องใช้งานบ่อยๆ โดยจะเป็นข้อความยาวๆ ตารางหรือรูปภาพก็ได้
1. เตรียมเนื้อหา ข้อความ หรือรูปภาพ ที่จะเก็บเป็นข้อความอัตโนมัติ และเลือกข้อความเหล่านั้น
2. เลือก Insert > Auto Text > New (แทรก >ข้อความอัตโนมัติ> สร้าง) หรือ กดปุ่ม<Alt>+<F3>
3. ตั้งชื่อให้กับ Auto Text นั้น
4. คลิกปุ่ม OK (ตกลง)
เรียกใช้คำใน Auto Tex
เมื่อสร้าง Auto Text ไว้แล้วหากต้องการนำมาใช้งานทำได้ ดังนี้
1. พิมพ์ชื่อของ Auto Text เพียงบางส่วน
2. เมื่อ Word แสดงชื่อเต็ม กดแป้น <Ener> Word จะนำข้อความเต็มๆ ของ Auto Text ชื่อนั้นมาใส่ให้
- ถ้าไม่ต้องการ Auto Text คำนั้น ก็ให้ป้อนส่วนที่เหลือของที่ต้องการเอง
คำที่เป็น Auto Text จะถูกจัดไว้ในเมนู Insert > Auto Text (แทรก > ข้อความอัตโนมัติ) ให้เรียกได้ง่ายขึ้น โดยคำที่สร้างเองถูกจัดเข้าไปในกลุ่มตามสไตส์ที่ข้อความนั้น ใช้ตอนสั่งสร้าง ดังตัวอย่าง ชื่อที่สร้างไว้จะอยู่ในกลุ่ม Nounal(ปกติ) ซึ่งเป็นสไตส์ที่ Auto Text นั้นใช้นั่นเอง
ลบค่าออกจาก Auto Text
ถ้า Auto Text ใดไม่ใช้งานแล้ว ก็สามารถจะลบออกได้ดังนี้
1. คลิก Insert > Auto Text > Auto Text (แทรก > ข้อความอัตโนมัติ > ข้อความอัตโนมัติ)
2. ที่แท็บ Auto Text (ข้อความอัตโนมัติ) คลิกชื่อที่ต้องการลบ
3. คลิกปุ่ม Delete (ลบ)
4. คลิกปุ่ม Ok (ตกลง)
คำถาม หน่วยที่ 7
1. เพื่อหาคำ วลี หรือข้อความจะมีความยาวไม่เกินเท่าไร
ก. 253
ข. 255
ค. 256
ง. 300
2. กลุ่มคำที่เรียกว่า Thrsaurus ภาษาไทยแปลว่าอะไร
ก. อรรภาถิธาน
ข. อรรถภิธาน
ค. อรรถามภินาธ
ง. อรรถาภิธาน
3. ออปชั่นมีกี่กลุ่มและอะไรบ้าง
ก. 2 กลุุ่ม กลุ่มการสะกด,กลุ่มไวยากรณ์
ข. 1 กลุ่ม กลุุ่มการสะกด
ค. 3 กลุ่ม กลุ่มการสะกด,กลุ่มปุ่ม,กลุ่มไวยากรณ์
ง. ถูกทุกข้อ
4. > ตัวนี้ใช้แทนในตำแหน่งอะไร
ก. ตำแหน่งแรกของคำ
ข. ตำแหน่งกลางของคำ
ค. ตำแหน่งท้ายของคำ
ง. ถูกทุกข้อ
5. คำไหนที่ใช้สัญลักษณ์ตัวแทน
ก. Sound like
ข. Search
ค. More
ง. Use wildcards
เฉยล 1.ข,2.ง,3.ก,4.ค,5.ง